The Nun 2 เป็นภาพยนตร์สยองขวัญภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง The Nun (2018) ที่กำกับโดย ไมเคิล ชาเวส และนำแสดงโดย เทสซ่า ฟาร์ไมก้า, โจนาส โบลเกต์, สตรอม รี้ด, แอนนา พอปเพิลเวล และบอนนี่ อารอนส์ ที่เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงเรื่องราวในภาคแรกคร่าวๆ ก่อนจะตัดมาที่เหตุการณ์ในปัจจุบัน ซิสเตอร์ไอรีน เดินทางมายังโรมาเนียอีกครั้ง เพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังการตายของบาทหลวงแห่งหนึ่ง แต่ทว่าเธอยังคงถูกปีศาจวาลัคตามหลอกหลอนอยู่ จึงต้องเร่ง เพื่อหาวิธีกำจัดปีศาจนี้ให้สิ้นซาก
เนื้อเรื่องของ The Nun 2 เป็นการดำเนินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรก ซิสเตอร์ไอรีน (แสดงโดย เทสซ่า ฟาร์ไมก้า) กลับมายังโรมาเนียอีกครั้ง เพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังการตายของบาทหลวงแห่งหนึ่ง ในระหว่างการสืบสวน เธอได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งชื่อ เดวิด (แสดงโดย โจนาส โบลเกต์) ซึ่งกำลังถูกปีศาจตามหลอกหลอน เธอจึงพยายามช่วยเหลือเขาไปอยู่ที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่งเพื่อทำการขับไล่ปีศาจ
แน่นอนว่าการขับไล่ปีศาจในครั้งนี้กลับล้มเหลว ปีศาจวาลัคได้กลับมาในรูปแบบที่โหดร้ายและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม และต้องร่วมมือกันต่อสู้กับปีศาจวาลัค พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวและความท้าทายครั้งใหม่ เพื่อปกป้องเดวิดและโลกใบนี้ให้รอดพ้นจากปีศาจร้ายวาลัคอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มันกลับมาในรูปแบบที่โหดร้ายและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
ต้องบอกเลยว่าสำหรับภาคนี้ยังคงรักษาความหลอนจากภาคแรกไว้ได้อย่างดีเยี่ยม มีการใช้เทคนิคการถ่ายทำและการตัดต่อที่สร้างความระทึกขวัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรยากาศของหนังก็ชวนให้รู้สึกวังเวงและน่ากลัว ฉากหลอนต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาได้อย่างน่าสะพรึงกลัว ให้ความรู้าึกที่หลอนกว่าภาคแรก แต่ขาดความสดใหม่ เพราะการหลอกของผีก็ยังมาในสไตล์เดิมๆ
สำหรับคนเคยดูภาคแรกมาแล้วต้องจับทางได้แน่นอน ซึ่งอาจทำให้หมดสนุกความหลอรไปได้เลย แต่หากถามว่าหลอนน่ากลัวน้อยลงกว่าภาคแรกหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่ายังคงรักษาความหลอนจากภาคแรกไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแค่พอจับทางได้ ส่วนเรื่องราวในภาคนี้มีความคล้ายคลึงกับภาคแรกอยู่พอสมควร และตัวละครบางตัวในภาคนี้ยังไม่น่าสนใจเท่าไร
The Nun 2 เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่หลอนกว่าภาคแรก แต่กลับมีจุดจบที่ชวนให้คิดถึงมากกว่า ไอรีนและฟรานซิสสามารถกำจัดปีศาจวาลัคได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ต้องสูญเสียบางอย่างไปเช่นกัน ไอรีนสูญเสียความศรัทธาในพระเจ้า ส่วนฟรานซิสก็สูญเสียชีวิตไป ซึ่งการสูญเสียเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของภูติผีซาตานที่ในบางครั้งความชั่วร้ายอาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ถึงแม้เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม สรุปว่าเป็นหนังยองขวัญที่หลอนกว่าภาคแรก แต่ขาดความสดใหม่ แฟนหนังสยองขวัญที่ชอบความหลอน แต่ติดตามผีแม่ชีอยู่แล้วไม่ควรพลาด
